Sunday, December 6, 2015

หลายชีวิต ๒๕๕๐ - (บทนำ) ฟ้าลิขิตหรือกรรมบันดาล

เขียนครั้งแรก www.oknation.net/blog/konto
วันจันทร์ ที่ 15 ตุลาคม 2550
หลายชีวิต ๒๕๕๐ - (บทนำ) ฟ้าลิขิตหรือกรรมบันดาล
Posted by คนโทใส่น้ำ , ผู้อ่าน : 299

 
          สายฝนโหมกระหน่ำเหนือฟ้ามหานครฝั่งตะวันออกในยามดึก สายฟ้าแลบแปลบปลาบ เสียงฟ้าร้องครืนครั่นเหนือพื้นที่หนองงูแมวเซาในอดีต ผู้คนในอาคารสนามบินต่างรู้สึกใจสั่นกับเสียงคะนองของฟากฟ้าที่ดุดันเกินปกติ
 
          กัปตันผู้กำลังเคร่งเครียดกับสายฟ้าและพายุ  วิทยุติดต่อกับศูนย์ควบคุมการบินและตัดสินใจว่าจะนำเครื่องลงให้ได้ เพราะนี่เป็นเที่ยวบินเกียรติยศของเขา ผู้โดยสารทุกคนในเที่ยวบินนี้เป็นผู้มีชื่อเสียงทั้งสิ้น เขาจะพยายามสุดฝีมือสำหรับเสียงปรบมือของผู้โดยสารเมื่อเครื่องบินนิ่งสนิทในลานจอด
 
          เครื่องบินเริ่มลดระดับลง ระบบลงจอดอัตโนมัติเริ่มทำงาน ฐานล้อเครื่องบินเริ่มกาง ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีไม่มีอะไรผิดพลาด จนเข้ามาถึงรันเวย์ ล้อเริ่มแตะพื้น
 
          เสียงผู้โดยสารในเครื่องหวีดร้อง เมื่อเครื่องกระแทกพื้นอย่างรุนแรงเหมือนเครื่องบรรทุกมาด้วยกรรมอันใดที่หนาหนัก  เครื่องกระดอนขึ้นแล้วเอียงวูบ เสียงข้าวของหล่นจากชั้น เสียงคนร้องกันระงม บ้างสบถสาบาน บ้างสวดมนต์ บ้างบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกับมีเสียงระเบิดที่ตอนหน้าของเครื่องบินฉับพลันทันทีกับควันที่ทะลักออกมาเต็มเครื่อง
 
          บรรดาผู้คนที่อยู่ในสนามบิน ต่างได้ยินเสียงดังสนั่น ภาพที่ทุกคนเห็นคือเครื่องบินลงมากระแทกรันเวย์จนล้อหักกระจาย ตัวเครื่องไถลออกนอกรันเวย์แล้วหัวทิ่มกระแทกพื้นจนขาดสองท่อนพร้อมกับเสียงระเบิดและมีไฟลุกท่วมลำ สักครู่เสียงไซเรนก็ดังระงมสนามบิน
 
          ฝนหยุดเม็ดแล้วในยามเช้าที่ฟ้าใสสว่างจ้าอย่างที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนในรอบหลายๆ ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยค่อยๆ ลำเลียงร่างไร้วิญญาณออกมาจากซากเครื่องบินที่พังยับเยิน ไม่มีผู้รอดชีวิตเลยแม้แต่กัปตันและลูกเรือ เครื่องบินนี้เป็นเครื่องเช่าเหมาลำพิเศษ บินมาจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผู้โดยสารระดับอภิมหาเศรษฐี นักการเมือง ผู้มีชื่อเสียงและผู้ร่วมเที่ยวบินคนอื่น ถูกนำมาวางเรียงกันในห่อผ้าขาว
 
          ถึงที่สุดแล้ว ทุกคนก็มาถึงซึ่งความจริงของชีวิต ไม่ว่ายากดีมีจนอย่างไรก็หนีไม่พ้นความตาย เป็นมหาเศรษฐี ร่ำรวยล้นฟ้า มีทรัพย์สินมากเท่าใด สุดท้ายก็ต้องการที่นอนยาววากว้างศอกเท่านั้น
 
          สายลมที่พัดพลิ้วด้วยว่าอยู่ในที่โล่งกว้าง พัดให้ผ้าขาวเปิดเห็นบางใบหน้าของศพที่มีดวงหน้าตระหนกสุดขีดดังเห็นยมบาลมาทวงกรรมที่ได้ก่อต่อหน้าต่อตา
 
          แต่เป็นกรรมอันใดเล่า ที่บันดาลให้คนที่เกิดต่างเวลา ต่างภูมิลำเนากัน มาจบชีวิตในเวลาเดียวกัน ในที่เดียวกัน มาประสบเคราะห์กรรมพร้อมๆ กัน *ซึ่งนับว่าเป็นเคราะห์อันหนัก แต่ละชีวิตจะเคยประกอบกรรมอันร้ายแรงมาเหมือนกันหมดทีเดียวหรือ? ดูไม่น่าจะเป็นไปได้ ทางที่ดีเราควรจะศึกษาชีวิตเหล่านี้ทีละชีวิต บางทีจะรู้ได้ว่ากรรมอันใดบันดาลให้เป็นไปเช่นนั้น บางทีเราอาจรู้ว่าความตายที่มาถึงคนเหล่านั้นพร้อมกันนั้น สำหรับบางคนอาจเป็นผลสนองตอบแทนความชั่วบางอย่าง บางคนอาจเป็นผลสนองความตั้งใจและความปรารถนา และบางคนอาจเป็นเพียงทางออกหรือมิฉะนั้นอาจะเป็นแค่เพียงจุดจบในประโยคชีวิตที่ยืนยาว แต่ละชีวิตที่จะบรรยายต่อไปนั้น เป็นคำตอบอันกระท่อนกระแท่นที่มนุษย์ธรรมดาสามัญ ผู้มิใช่พรหมจะให้แก่กันได้เท่านั้นเอง*
 
หมายเหตุ๑. ในเครื่องหมายดอกจัน เป็นสำนวน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช จากเรื่อง “หลายชีวิต”

No comments:

Post a Comment