Sunday, December 6, 2015

มิยูกิที่รัก ตอนที่ 6 จดหมายฉบับแรกจากมิยูกิ (จบ)


ผมนั่งอยู่ที่หน้าต่างกระจกใสบานนั้น นั่งเฝ้าดูเครื่องบินลำที่มีมิยูกิอยู่ข้างใน ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คิดถึงหน้าเธอตลอดเวลา คิดถึงทุกโมงยามที่อยู่ด้วยกัน น้ำตาพานไหลออกมาจนต้องเอามือปาดอยู่ตลอดเวลา
 
เครื่องบินลำนั้นเริ่มเคลื่อนออกไปแล้ว...ขึ้นไปแล้ว...ใจผมหวิววาบเหมือนถูกบีบ..บีบ จนรู้สึกเจ็บอยู่ข้างใน ...นี่ผมจะมีชีวิตอยู่โดยไม่มีเธอได้หรือ… ผมยังนั่งมองฟ้าตรงตำแหน่งเครื่องบินลับตาไปอีกเป็นชั่วโมง
 
กลับถึงบ้านผมลงมือเขียนจดหมายถึงเธอทันที โดยไม่รู้ว่าเขียนอะไรไปบ้าง เหมือนกับใจสั่งมาให้เขียนโดยไม่ต้องคิด ปิดซองติดแสตมป์แล้วตั้งใจว่าพรุ่งนี้เช้าจะเอาไปส่งพร้อมกับเอกสารที่สำนักงาน
 
เกือบตีสามแล้วตอนที่ผมเข้านอน แต่นอนไม่หลับ ใจกระวนกระวายอย่างไรชอบกล สุดท้ายลุกขึ้นหยิบซองจดหมายที่เขียนไว้แล้วเดินไปหย่อนตู้ไปรษณีย์หน้าปากซอย ราวกับว่าไปรษณีย์จะมาไขตู้เสียเดี๋ยวนั้นเลย
 
ผ่านไปเจ็ดวัน ผมก็เขียนจดหมายไปอีก ผ่านไปอีกเจ็ดวันผมก็เขียนจดหมายไปอีก
 
หนึ่งเดือนแล้วนับแต่จากกัน ยังไม่มีวี่แววจดหมายตอบกลับ ผมถามหาจดหมายจากแม่บ้านที่สำนักงานทุกครั้งที่เจอหน้าจนเธอไม่ค่อยมาให้ผมเห็นหน้าดังเคย ผมยังเขียนจดหมายทุกๆ 3 วันบ้าง 7 วันบ้าง แต่ไม่มีจดหมายตอบกลับมาเลย
 
ตลอดเวลาผมเช็คข่าวต่างประเทศจากทีวี จากหนังสือพิมพ์ นิตยสาร แต่ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรเกิดขึ้น หรือเธอไม่สบาย? หรือเธอประสบอุบัติเหตุแต่ไม่เป็นข่าว? สารพัดที่ผมจะคิด แต่ทุกอย่างเงียบเหมือนสายลม เธอไปแล้วไปลับ
 
เข้าเดือนที่สองเพื่อนๆ ที่สำนักงานเห็นอาการของผมที่เหมือนหมาบ้าถูกขัง ทำงานทั้งวันไม่พูดไม่คุยกับใคร ก็ชวนผมไปนั่งฟังเพลงบ้าง ดื่มเหล้าบ้าง ก็ไม่ได้ทำให้ผมดีขึ้นเลย กลับกลายเป็นว่าทุกครั้งที่ดื่มเหล้าผมก็จะดื่มไม่ยั้ง ดื่มจนไม่ได้สติ เพื่อนๆ ต้องพามาส่งบ้านทุกครั้ง ผมเป็นอย่างนี้อยู่นานหลายเดือน เพื่อนๆ ชักจะไม่มาชวน ผมก็เป็นฝ่ายชวนเสียเอง แต่เพื่อนๆ ก็จะติดธุระกันตลอด ผมก็ไปดื่มคนเดียว
 
แต่ผมยังเขียนจดหมายทุกๆ สัปดาห์...และยังไม่มีจดหมายตอบกลับมาเลย
 
เช้ามืดวันเสาร์หลังจากผ่านไปปีกว่าๆ ผมโซเซเดินสวนกับพระที่มาบิณฑบาต เปิดประตูบ้านเข้าไป เห็นพ่อนั่งอยู่ที่ชุดรับแขก ผมก็เดินเข้าไปทักพ่อ

“ตื่นแต่เช้าเชียวนะพ่อ”

“พ่อยังไม่ได้นอนเลยลูก พ่อรอลูกอยู่น่ะ พ่อมีเรื่องสำคัญจะคุยกับลูกน่ะ นั่งลงสิ”

ผมนั่งลงตรงข้ามกับพ่อ ผมเพิ่งเห็นว่าพ่อมีน้ำตาอาบสองแก้มด้วย ผมตกใจมาก

“พ่อเป็นอะไรหรือเปล่าครับ”

“พ่อไม่เป็นไรหรอก แต่พ่ออยากรู้ว่าลูกน่ะเป็นอะไร พ่อเป็นห่วงลูกมากนะ รู้มั้ย”

“ผมไม่เป็นไรหรอกพ่อ”

“ไม่เป็นอะไร แล้วทำไมถึงทำตัวอย่างนี้ พ่อรู้นะว่าเป็นเพราะผู้หญิงญี่ปุ่นคนนั้น เอ่อ..ที่ชื่ออะไรนะ มิยูกิใช่มั้ย”

ผมก้มหน้าไม่พูดอะไร พ่อก็เลยพูดต่อ
“ลูกรักเขามากใช่มั้ย ลูกมีที่อยู่เขานี่ ลูกจะไปหาเขามั้ย ลูกจะเอาเงินเท่าไหร่ พ่อจะให้ ไปหาเขาให้เจอ ไปพาเขากลับมาอยู่ด้วยกัน”

“ไม่หรอกครับ ผมไม่กล้าไป”

“ทำไมล่ะ”

“ผมกลัวว่าจะไปพบว่าเธอไม่รักผมแล้ว หรือแต่งงานแล้ว หรือไม่ก้อเธอ..ตายไปแล้ว”

“ลูกอย่าใช้การคิดไปเองมาทำให้กลัวขนาดนั้น ถ้าลูกไม่กล้า ลูกก็ควรจะเปลี่ยนแปลง”

“เปลี่ยนยังไงล่ะพ่อ”

“ลูกต้องอยู่เหมือนกับว่ามีเธออยู่ข้างๆ ใช้ชีวิตมีความสุข ไม่สำมะเลเทเมาอย่างงี้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนจะรักผู้ชายอ่อนแอหรอกนะลูก”
ผมนั่งก้มหน้านิ่ง

“ทุกครั้งที่ลูกเมากลับมา พ่อเห็นแล้วต้องร้องไห้ทุกที พ่อสงสารลูก แต่สงสารมันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาได้หรอกนะ พ่อสั่งห้ามไม่ให้เพื่อนๆ ที่ออฟฟิศชวนลูกไปกินเหล้าเด็ดขาด พ่อให้คนตามไปเฝ้าลูกทุกครั้งที่ลูกไปกินเหล้า ตอนนี้ลูกทำให้หลายๆ คนเดือดร้อนไปกับลูกแล้วล่ะ นี่จะช่วยให้ลูกคิดอะไรได้บ้างหรือยัง”

ผมนิ่งไปอีกนาน ก่อนจะบอกพ่อ “พ่อ ผมอยากบวช”

“อย่าเลยลูก ถ้าใจของลูกยังเป็นแบบนี้ บวชไปก็เสียผ้าเหลือง ถ้าลูกไม่เห็นแก่พ่อ ก็เห็นแก่แม่เถอะ เลิกดื่มเหล้านะลูก สัญญากับพ่อได้มั้ย ”

ผมเห็นหน้ามิยูกิลอยมา ผมเห็นหน้าแม่ของผมลอยมา ก่อนจะอ้อมแอ้มตอบพ่อ

“ครับ ผมสัญญา”
 
:: :: :: :: ::
 
ผมกลับมาเป็นคนเดิมได้หลายเดือนแล้ว เพียงแต่ผมพูดน้อยลง ทำงานมากขึ้น และผมยังเขียนจดหมายอยู่เหมือนเดิม
 
จนกระทั่งวันนี้มีซองพัสดุส่งมาถึงผม ซองสีน้ำตาลใหญ่ เขียนด้วยลายมือภาษาอังกฤษ ติดแสตมป์รูปดอกซากุระ ผมฝากงานที่คั่งค้างกับเพื่อนแล้วออกจากสำนักงานพร้อมด้วยซองนั้นทันที
 
...ที่สวนลุมพินี ใต้ร่มไม้ริมน้ำที่ผมเคยนั่งอยู่กับมิยูกิ…
 
ผมแกะซองสีน้ำตาล มีรูปขาวดำปึกใหญ่ เป็นรูปที่ผมถ่ายคู่กับมิยูกิบ้าง รูปเดี่ยวของมิยูกิบ้าง รูปเดี่ยวของผมบ้าง รูปสุดท้ายเป็นรูปขาวดำ ไม่ใช่รูปของผมหรือมิยูกิ แต่เป็นรูปของเด็กหญิงหน้าตาน่ารัก น่าเอ็นดู..และยังมีซองจดหมายลายดอกซากุระอีกซองหนึ่ง
 
...เธอไม่รักผมแล้ว เธอลืมผมแล้ว เธอแต่งงานกับชายคนอื่นแล้ว..แล้วเธอยังจะขยี้หัวใจผมให้แหลกเหลว ด้วยการส่งรูปลูกสาวเธอมาให้ผมดู เธอยังจะเขียนจดหมายมาเยาะเย้ยผม….
 
ผมสองจิตสองใจจะเปิดจดหมายดู หรือจะฉีกทิ้งเสียเดี๋ยวนี้
แล้วผมก็เปิดจดหมายด้วยมือที่สั่นอย่างควบคุมไม่ได้
:: :: :: :: ::
 
:: :: ::จบบริบูรณ์ :: :: ::

เขียนครั้งแรก www.oknation.net/blog/konto
วันศุกร์ ที่ 10 ตุลาคม 2551
มิยูกิที่รัก (6) จดหมายฉบับแรกจากมิยูกิ..จบบริบูรณ์
Posted by คนโทใส่น้ำ , ผู้อ่าน : 2693

No comments:

Post a Comment